พระมหาบุญไทย ปุญญมโน ใน "ไซเบอร์วนารามเน็ต
เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม” ได้นำบทความของ ดร. สมบูรณ์ วัฒนะ
มาลงในเว็บของท่าน
ต้นฉบับเดิมขอให้ไปอ่านที่
บทความที่ชื่อว่า “สิ่งสัมบูรณ์:นิพพาน เต๋า โมกษะ แบบ” เมื่อนำบทความของผู้อื่นมาลงในเว็บของตนเอง
พระมหาบุญไทยจึงได้เขียนเกริ่นนำขึ้น ดังนี้
ผู้ที่ศึกษามาทางด้านปรัชญาย่อมจะเข้าใจภาษาทางปรัชญาเช่น
"สิ่งสัมบูรณ์" "มโนทัศน์" “ทฤษฎีแบบ”
เป็นต้น
ผู้ที่ศึกษามาทางศาสนาก็ย่อมจะเคยได้ยินคำว่า “นิพพาน” เต๋า” “โมกษะ”
ส่วนผู้ที่ศึกษามาทางอื่นอาจจะเคยได้ยินแต่ไม่เข้าใจ
เพราะภาษาทางด้านปรัชญาและศาสนาเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ศาสนาและปรัชญาแม้จะอยู่ในขอบข่ายสาขาวิชาที่ใกล้เคียงกัน
แต่ทว่าความหมายของคำบางคำก็มีวิธีการอธิบายที่ต่างกัน
นักปรัชญาอาจจะไม่ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองอธิบายเลยก็ได้
ในขณะที่นักการศาสนาต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ตนค้นพบ
วิถีของนักปรัชญาและนักศาสนาจึงเริ่มต้นต่างกัน
ดร. สมบูรณ์ วัฒนะ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยท่านหนึ่ง
แต่ไปจบปริญญาเอกทางด้านปรัชญาที่มหาวิทยาลัยปัญจาป อินเดีย
ดินแดนแห่งผู้สนใจในด้านศาสนาและปรัชญาโดยตรง
ได้อธิบายและตีความตามทัศนะทางปรัชญา
เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษาจึงขออนุญาตนำเผยแพร่
โปรดอ่านด้วยใจที่เป็นกลาง
|
ในการย้ายที่อยู่ของบล็อกครั้งล่าสุด
คือ วันนี้ (8 พฤษภาคม 2555) ผมได้เข้าไปอ่านบทความนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เพื่อตรวจสอบที่อยู่ของ url
ว่ายังอยู่เหมือนเดิมหรือไม่
พบว่า
มีการปรับปรุงบทความนี้ใหม่
ผมยังไม่ได้อ่านโดยละเอียด
เพราะ ไม่มีเวลา จึงจะวิพากษ์วิจารณ์บทความเดิมไปก่อน
ต่อไปข้างหน้าถ้ามีเวลาเหลือ
ผมอาจจะมาอ่านบทความใหม่อีกครั้งหนึ่ง
และก็จะวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เป็นความรู้ต่อไปอีกครั้งหนึ่ง
การวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างนี้
จึงเป็นของเก่าที่นำมาลงที่อยู่ใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับการจัดโครงสร้างของบล็อก
ข้อวิพากษ์วิจารณ์
ผมขอวิพากษ์วิจารณ์ขั้นเป็นตอนๆ
ไปเลย เพราะ เนื้อความยาวพอสมควร ถ้ายกตัวอย่างไปก่อน วิพากษ์วิจารณ์ทีหลัง
ท่านผู้อ่านอาจจะรำคาญใจ
เพราะ ต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลงอยู่เรื่อย
ประการแรกเลย
ข้อเน้นประโยคสุดท้ายและข้อความสุดท้าย ที่พระมหาบุญไทย ขอให้ท่านผู้อ่าน อ่านบทความของท่านด้วยความเป็นกลาง
แต่ผมสงสัยว่า
"ความเป็นกลาง"
ของพระมหาบุญไทยมีหรือไม่??
บทความของ
ดร. สมบูรณ์เสนอแนวคิดที่พระมหาบุญไทย "ชอบ"
พระมหาบุญไทยจึงนำมาเผยแพร่ต่อใช่หรือไม่??
พระมหาบุญไทยไม่เชื่อว่า
นรก-สวรรค์มีจริง เพราะ ไปเชื่อปรัชญาตะวันตก เมื่อเห็นบทความที่สนับสนุนความเชื่อของท่าน
ท่านจึงเอามาลงไว้
ใช่หรือเปล่า!!
เมื่อท่าน
"ไม่มีความเป็นกลาง"
แล้วจะเรียกร้องหา "ความเป็นกลาง"
ไปทำไม?
ในส่วนของที่เป็นข้อเขียนของ
ดร. สมบูรณ์ ดร.
สมบูรณ์เขียนบทนำไว้ดังนี้
ในบทความนี้จะกล่าวถึงแนวคิดเรื่องสิ่งสัมบูรณ์ในศาสนาพุทธ ปรัชญาของเล่าจื้อ
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และปรัชญาของเพลโต (Plato)
จุดมุ่งหมายเพื่อเข้าใจความหมายของสิ่งสูงสุดและวิธีการปฏิบัติเพื่อบรรลุสิ่งสูงสุดนั้นตามทรรศนะของศาสนาและปรัชญาเหล่านี้
พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จากการศึกษาสิ่งสัมบูรณ์ตามทัศนะของศาสนาและปรัชญาเหล่านี้
ในชีวิตประจำวันของมนุษย์
นิพพาน เป็นชื่อของสิ่งสัมบูรณ์ในพุทธศาสนา
เต๋า เป็นชื่อของสิ่งสัมบูรณ์ในปรัชญาของเล่าจื้อ
โมกษะ เป็นชื่อของสิ่งสัมบูรณ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ
แบบ (Form) หรือ มโนคติ (Idea) เป็นชื่อของสิ่งสัมบูรณ์ในปรัชญาของเพลโต
(Plato)
|
ข้อเขียนของ
ดร. สมบูรณ์ วัฒนะชิ้นนี้ ผมจะนำมาวิพากษ์วิจารณ์
เฉพาะที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนิพพานของศาสนาพุทธ
เรื่องสิ่งสมบูรณ์อื่นๆ
ไม่นำมาวิเคราะห์ด้วย เพราะ ไม่เห็นประโยชน์อะไร
สำหรับเหตุผลนั้น ผมเชื่อว่า
การที่เราเกิดมาอยู่ในศาสนาพุทธเถรวาทนั้น ถือว่ามีบุญมีบารมีมากพอสมควร
ศาสนาพุทธเถรวาทของเรานั้น
คำสอนถูกต้องตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ สามารถปฏิบัติตามได้
ท่านผู้อ่านที่คิดจะเอาตัวรอดจากวัตตะสงสาร
อ่านแค่ศาสนาพุทธเถรวาทก็เพียงพอแล้ว
นอกจากนั้น
ยังจะขอยืนยันเพิ่มอีกว่า ถ้าไม่มีเวลามากนัก
อ่านแค่เอกสารและหนังสือของวิชาธรรมกายก็เพียงพอต่อการเอาตัวรอดในชาตินี้ได้แล้ว
สำหรับ
“สิ่งสมบูรณ์” ของศาสนาอื่น
หรือของสาขาวิชาอื่นๆ ให้ท่านที่ชมชอบปรัชญาอ่านกันไปเถิด เพราะ มันไม่เกิดวาสนาบุญบารมีแต่ประการใด
มีแต่การชักนำไปให้ลงอบายภูมิเท่านั้น
สำหรับตัวผมเองก็ต้องอ่าน
เพื่อให้เข้าใจ เพราะ ร่ำเรียนมาประการหนึ่ง อ่านมามากแล้ว จะทิ้งไปก็เสียดาย และประการสำคัญก็คือ
เพื่อที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น